No Bullying โดยทีม Youngblood โรงเรียนพรตพิทยพยัต จังหวัดกรุงเทพมหานคร
‘แกๆ รู้ข่าวยังที่รุ่นพี่สุดหล่อของเราเป็นแฟนกับเด็ก ม.4 ฉันว่าคนนั้น
ไม่สวยเลย ตัวก็อ้วนแถมผิวก็ดำ’
‘แกๆ รู้ข่าวยังว่า เด็ก ม.2 โรงเรียนเราที่ติ๋มๆ โดนรุมกระทืบ
หลังห้องน้ำ เพราะไปมองหน้ารุ่นพี่’
‘แกๆ คนนี้ใช่ปะที่มีคลิปหลุดโดนตบ แต่ก็สมควรแล้ว
อยากไปแย่งแฟนเขาเอง’
ประโยคด้านบนเป็นเรื่องราวการกลั่นแกล้งที่พวกเราทีม Youngblood และเพื่อนๆ คนอื่นๆ
เคยได้ยินได้ฟังกันมาอยู่เรื่อยๆ
และจากที่พวกเราไปหาข้อมูลมา แบบสอบถามเรื่องการกลั่นแกล้งและความรุนแรงในสถานศึกษา ซึ่งจัดทำโดยเครือข่าย
นักกฏหมายเพื่อเด็กและเยาวชน ที่สำรวจเด็ก 1,500 คน จาก 15 โรงเรียนทั่วประเทศ บอกว่า เด็กช่วงอายุประมาณ
13-15 ปี มักเป็นช่วงที่ถูกกลั่นแกล้งมากที่สุด
โดยวิธีแกล้งมีทั้งการทำร้ายร่างกาย พูดเหยียดหยาม ล้อปมด้อย รวมไปถึงการกลั่นแกล้งในสื่อออนไลน์ หรือ Cyberbullying
และด้วยความที่พวกเราเคยอยู่ชมรมหนังสั้นของโรงเรียนมาก่อน ก็เลยคิดว่า
การจัดประกวดหนังสั้นหัวข้อ ‘No Bullying’ ให้กับรุ่นน้องที่โรงเรียนน่าจะเป็นกิจกรรมที่เหมาะสม
เพราะหนังสั้นเป็นสื่อที่เข้าถึงง่าย อีกทั้งเวลาได้ช่วยกันวางแผน เขียนบท และออกกองถ่ายทำกับเพื่อนๆ
ก็สนุกมากๆ รวมถึงได้ฝึกการทำงานเป็นทีมไปด้วยในตัว
แต่ก่อนจะแจกโจทย์ให้รุ่นน้องลงมือถ่ายทำหนังสั้น พวกเรารู้ว่าการ จะทำหนังสั้นสักเรื่องขึ้นมา คนทำจะต้องเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จึงเริ่มสำรวจก่อนว่าน้องๆ มีความเข้าใจเรื่องการบูลลี่อย่างไรบ้าง ซึ่งเราตกใจมากที่ได้พบว่าน้องๆ ส่วนใหญ่คิดว่าการกลั่นแกล้งทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์เป็นเรื่องปกติ พวกเราจึงยิ่งฮึกเหิม อยากช่วยให้น้องๆ ปรับความเข้าใจเรื่องนี้กันเสียใหม่
ดังนั้นพวกเราเลยแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วนหลัก ส่วนแรกคือการอบรมเนื้อหาเรื่องการบูลลี่
และแบ่งปันเทคนิควิธีการถ่ายทำหนังสั้น โดยเริ่มจากการพาน้องๆ ทำ mind mapping
ระดมไอเดียเกี่ยวกับการบูลลี่
จากนั้นจึงให้ความรู้ที่ถูกต้อง ยกตัวอย่างเหตุการณ์การบูลลี่ที่เกิดขึ้นจริงในสังคมไทย เพื่อให้น้องๆ
เห็นผลกระทบและความรุนแรงของการบูลลี่ทั้งในโลกจริงและโลกออนไลน์ พวกเรายังสอนน้องๆ ด้วยว่า
หากตัวเองถูกบูลลี่หรือเห็นเพื่อนๆ ถูกบูลลี่จะต้องรับมืออย่างไร เช่น กดบล็อก ไม่ตอบโต้
และแจ้งครูหรือพ่อแม่
พอจบเรื่องการบูลลี่ เราก็แนะแนววิธีการทำหนังสั้น โดยเราได้รวบรวมคลิปวิดีโอหนังสั้นที่เล่าประเด็นบูลลี่
มาเป็นตัวอย่างให้น้องๆ ดูเพื่อสร้างแรงบันดาลใจอีกด้วย
จากนั้นก็ถึงเวลาออกกองถ่ายทำจริงๆ ซึ่งพวกเราก็ไม่ได้ปล่อยให้น้องๆ ไปทำกันเอง แต่พวกเรายังแยกกันไปเป็นสตาฟลงพื้นที่กับน้องๆ โดยพวกเรา 1 คนจะดูแลน้อง 5 คน หากน้องมีปัญหาขณะถ่ายทำ
พวกเราจะคอยช่วยให้คำปรึกษา แต่ส่วนใหญ่จะปล่อยให้น้องได้โชว์ไอเดียสร้างสรรค์หนังสั้นออกมาตามความเข้าใจของตัวเองมากกว่า
ในทำโปรเจกต์นี้พวกเราดีใจที่ได้ช่วยพูดถึงปัญหาสังคม แม้จะมีอุปสรรคเกิดขึ้นบ้าง เช่น น้องบางกลุ่มก็ทำหนังสั้นไม่เสร็จเพราะติดสอบปลายภาค แต่พวกเราก็ไม่เสียใจ เพราะอย่างน้อยน้องๆ ทั้ง 25 คนก็ได้รับรู้ถึงปัญหาและเห็นความสำคัญในการต่อต้านการบูลลี่แล้ว
ไม่เฉพาะน้องๆ พวกเราเองก็ได้เรียนรู้อะไรมากขึ้นเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น การทำงานเป็นทีม การกล้าทดลองทำอะไรใหม่ๆ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเมื่อพบเจออุปสรรค หรือแม้กระทั่งการบริหารจัดการเงินทุนที่ได้มาเพื่อซื้ออุปกรณ์ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้พวกเราทุกคนเติบโตขึ้นมากๆ เลยล่ะ
แต่สุดท้ายสิ่งที่พวกเราชื่นใจที่สุดก็คือ การได้เห็นน้องหลายๆ คนสนุกไปกับกิจกรรมของพวกเรา และบอกพวกเราว่าอยากให้มีโครงการดีๆ แบบนี้อีกต่อไป
สมาชิกทีม Youngblood
นายณัฐวุฒิ คงชุ่ม, นายวรดร พุ่มโพธิ์,
ด.ญ.อิษยา นิ่มวัฒน์, ด.ช.ธีรภัทร ศรีวิเศษ,
ด.ญ.จิรานุช วรบัติ, อาจารย์รัชพล ไชยวงค์
เคล็ดลับจัดประกวดหนังสั้นให้ปังแบบ ‘ทีม Youngblood’
1. เช็กก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายมีความรู้เกี่ยวกับโจทย์ที่เราจะให้ทำมากน้อยขนาดไหน
2. ถ้าไม่รู้ก็ต้องทำให้รู้!
3. แรงบันดาลใจก็สำคัญ อย่าลืมหาตัวอย่างหนังสั้นหลายๆ แบบมาให้ดู
4. อย่าปล่อยน้องๆ ทำเองโดยไม่ช่วยเหลือ ต้องเป็นเมนเทอร์ให้น้องๆ ด้วยนะ
#ส่องสกิลเด็ด
ความเป็นผู้นำ, การเขียนบทและถ่ายทำหนังสั้น
ถ้าหากใครสนใจอยากทดลองเล่นบอร์ดเกมที่พวกเราออกแบบในโครงการนี้ ก็สามารถดาวน์โหลดไฟล์ได้จากปุ่มด้านล่างนี้เลย!
ดาวน์โหลด